AUDIOSTAR PRO
CLINICAL AUDIOMETER
GSI AudioStar Pro ™ยังคงรักษาความเป็นเลิศในด้านการตรวจการได้ยินทางคลินิค และ Grason-Stadler ยังคงสืบทอดความรวดเร็วในการตรวจที่มีประสิทธิภาพและรูปแบบการใช้งานที่คุ้นตา ด้วยแผงควบคุมด้านหน้าแบบหนึ่งปุ่ม-หนึ่งฟังก์ชั่น ของเครื่องตรวจการได้ยินชนิด 2 Channelนี้ ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็น Gold Standard ด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่ายช่วยให้ผู้ตรวจการได้ยินสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ
PATIENT FOCUSED AUDIOMETRY
สามารถเปลี่ยนชนิดของการทดสอบได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับตั้งค่าการใช้งานให้ได้ตามผู้ใช้งาน เช่น การปรับตั้งค่า Wordlist ลดเวลาในการตรวจ เพื่อให้ผู้ตรวจสามารถประเมินผู้ป่วยที่ตรวจอยู่ได้ดีขึ้น
เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของคุณ
คุณสมบัติเช่นการเล่นSpeech และการเลือกความถี่ล่วงหน้าอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ตรวจจัดการเครื่องมือและใส่ใจผู้ป่วยได้ดีขึ้น สามารถกำหนดรายการ Word list ดิจิตอลของคุณได้ เพื่อการทดสอบ Speech ที่น่าเชื่อถือ โดยตัวเครื่องสามารถคำนวณค่า SII หรือ PTA ให้ได้โดยอัตโนมัติ สามารถเปรียบเทียบผลการทดสอบ Pure Tone และการทดสอบ Speechได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือในการตอบสนองของผู้ป่วย
รูปแบบการควบคุมที่คล้ายเดิม
เพื่อที่จะประเมินผลของผู้ป่วยทุกครั้งอย่างมีประสิทธิภาพ รูปแบบอุปกรณ์ของการตรวจการได้ยินที่คุ้นเคยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ตรวจทุกคน ด้วยแผงควบคุมที่เป็นที่รู้จัก จอแสดงผลที่ใช้งานง่าย แผงควบคุมการทำงานหนึ่งปุ่มต่อฟังก์ชั่น ผู้ตรวจจะสามารถใช้งานเครื่องมือได้ทันที และสามารถที่จะใช้ได้อย่างรวดเร็วและตรวจได้อย่างถูกต้องด้วยความมั่นใจ
สามารถปรับแต่งการตั้งค่าเครื่องมือผ่าน
ทางแอปพลิเคชันที่กำหนด ได้แก่ ปุ่มประเภทการทดสอบ, ดิจิตอล Word list (.Wav files), การตั้งค่าตอนเปิดเครื่อง และตัวเลือกอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า AudioStar Pro จะเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบ และรายงานผลโดยมีประสิทธิภาพและความถูกต้องตามความต้องการ
ทำงานอิสระ หรือทำงานร่วมกับPC ได้
AudioStar Pro เป็นเครื่องตรวจการได้ยินที่ให้ความยืดหยุ่นเป็นอิสระที่ให้การถ่ายโอนข้อมูลที่ง่ายดายไปยังคอมพิวเตอร
คุณสมบัติเด่นของเครื่อง
1.ทำงานได้อิสระ หรือทำงานร่วมกับPC ได้
ถ่ายโอนข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ผลการตรวจก็จะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ
2.การตรวจ Speech อัตโนมัติ
ตัวเครื่องสามารถใส่เสียงที่บันทึกไว้เพื่อนำมาทำเป็น Word List และนำมาใช้งานตรวจ Speech ได้ โดยการเล่นเสียงให้อัตโนมัติ
3. PEDIATRIC NOISE
นักโสตสัมผัสวิทยาในเด็กสามารถเปลี่ยนรูปแบบเสียงได้อย่างรวดเร็ว ระหว่าง Warble, Pulsed และ Pediatric Noise
4.พิมพ์ผลตรวจได้โดยตรง
ใช้แป้นพิมพ์และเม้าส์ที่ต่อภายนอกในการป้อนข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผู้ป่วย ความคิดเห็นในการตรวจได้อย่างรวดเร็วและพิมพ์รายงานผลแบบสมบูรณ์โดยตรงไปยังเครื่องพิมพ์ที่เชื่อมต่ออยู่หรือแฟรชไดรฟ์ USB
5.การตั้งค่าที่กำหนดได้
การทดสอบและการตั้งค่าที่กำหนดได้เพื่อปรับปรุงการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพของการทดสอบให้รวดเร็วขึ้น เลือกการตั้งค่า เช่นการเริ่มต้นการทดสอบ,การตั้ง auto Hz ไว้ล่วงหน้าและ wordlistในรายการที่ใช้บ่อย
6.การครวจพิเศษ
มีการทดสอบพิเศษหลายรายการ รวมถึง QuickSIN, BKB-SIN, SISI, TEN, ABLB และ Tone Decay
PURE TONE
การกดปุ่มชนิด Tone Test จะเป็นการเตรียม AudioStar Pro สำหรับการทดสอบเสียงบริสุทธ์ทางอากาศ และการทดสอบเสียงทางกระดูกจาก 125 ถึง 8,000 เฮิร์ตซ์ การเลือกแต่ละรายการบนเมนูควบคุมสีน้ำเงินเป็นการตรวจเสียงบริสุทธิ์โดยเฉพาะ โดยเลือกใช้จากหูฟัง (DD45),Insert (ER3A, IP30), Bone (B71, B81) และเสียงลำโพง ได้จากประเภทการทดสอบนี้ การกดปุ่มนี้ จะตั้งค่าเริ่มต้นได้จากแอปพลิเคชั่นที่กำหนด เพื่อเป็นค่าเริ่มต้นการทดสอบ
FULL FREQUENCY
การกดปุ่มประเภทการทดสอบ High Hz จะเป็นการเตรียม AudioStar
Pro สำหรับการทดสอบทางอากาศ และทางกระดูก จากช่วงความถี่สูง (8,000 ถึง 20,000 Hz) หรือช่วงเต็ม (125 ถึง 20,000 Hz) เลือกช่วงความถี่แบบเต็มหรือช่วงความถี่สูงจากเมนูแถบนำทางสีน้ำเงิน เมนู. สามารถเลือกใช้หูฟังความถี่สูง(HDA200/300) Bone Vibrator (B71, B81) และเสียงลำโพงจากประเภทการทดสอบนี้ การกดปุ่มนี้จะเป็นการตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้นจากแอปพลิเคชัน กำหนดให้เป็นค่าเริ่มต้นการทดสอบ
SPEECH
การกดปุ่มการตรวจ Speech จะจัดเตรียม AudioStar Pro สำหรับการทดสอบการพูด AudioStar Pro มาพร้อมกับ Word list ในตัวสำหรับการทดสอบ Speech มีการเล่นเสียงพูดอัตโนมัติและการกดให้คะแนน คุณสามารถใช้เมาส์ควบคุมเพื่อ ปล่อยเสียง, หยุดชั่วคราว, ทำซ้ำ,ข้ามและทำการให้คะแนนได้อย่างง่ายดาย การทดสอบความเข้าใจเสียงพูดในเสียงรบกวนอื่น(speech-in-noise) และ word list สามารถโหลดโดยตรงจากแฟลชไดรฟ์
QUICKSIN
ผู้บกพร่องทางการได้ยินส่วนมากจะมีความยากที่จะแยกเสียงที่ต้องการออกจากเสียงรบกวน(Background noise) การวัดการสูญเสีย SNR (signal-to-noise-ratio loss) จึงมีความสำคัญเนื่องจากความเข้าใจในการพูดในขณะมีเสียงรบกวนไม่สามารถทำนายได้อย่างถูกต้องจากออดิโอแกรมเสียงบริสุทธฺ์ (Killion & Niquette, 2000) ในรายการมีหก (6) ประโยคจะมีห้า (5) คำสำคัญต่อประโยคในเสียงผู้พูดสี่คน ที่เป็นเสียงรบกวน ประโยคจะถูกนำเสนอจะมีการบันทึก signal to noiseไว้ล่วงหน้า ซึ่งอัตราส่วนจะลดลงสเตปละ 5 dB จาก 25 (ง่ายมาก) ถึง 0 (ยากมาก) SNRที่ถูกใช้ คือ 25, 20, 15, 10, 5 และ 0 ที่ครอบคลุมคนปกติถึงผู้ที่มีประสิทธิภาพที่บกพร่องอย่างรุนแรง
การตรวจการได้ยินที่ใส่ใจผู้ป่วย
การเปลี่ยนชนิดของการทดสอบได้อย่างรวดเร็ว การปรับแต่งตัวเลือกฟังก์ชันอัตโนมัติไปยัง
Word list ที่ใช้งานบ่อย เพื่อลดเวลาการระหว่างการทำงาน เพื่อให้ใส่ใจดูแลผู้ป่วยของคุณและการประเมินผลที่ถูกต้องอยู่ในมือคุณ